สถานการณ์เหตุ "ไฟไหม้" โกดัง เก็บ สารเคมี ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดอายัดอยู่ระหว่างรอทำลาย ที่ ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเริ่มเกิด เพลิงไหม้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวานนี้ (1 พ.ค. 2567) จนกระทั่งช่วงเวลา 02.00 น. วันนี้ (2 พ.ค. 2567) จึงสามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้
โดยเพลิงได้ไหม้ที่โกดังโรงที่ 4 และ 5 ซึ่งเก็บ สารเคมี ของกลางที่ยึดอายัดซึ่งอยู่ระหว่างรอทำลาย ซึ่ง นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ในการควบคุม สั่งการ อำนวยการ พร้อมด้วยนายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าระงับเหตุ ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุ เพลิงไหม้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ยอด ผู้ป่วย พบว่ามี 35 ราย อพยพ ส่งกลับบ้าน 17 ราย และส่งตามโรงพยาบาลใกล้เคียง 18 ราย รพ.ท่าเรือ 8 ราย รพ.อุทัย 3 ราย รพ.สมเด็จพระสังฆราชฯ 7 ราย
ทั้งนี้ได้ดำเนินการเปิดศูนย์อพยพ และโรงพยาบาลสนาม ณ วัดโคกม่วง อ.ภาชี มีประชาชนมาที่เคลื่อนย้ายมายังศูนย์อพยพ จำนวน 17 คน (ชาย 8 คน หญิง 9 คน) เบื้องต้น พบชายสูงอายุที่มีอาการหายใจไม่สะดวก จึงได้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม
ขณะที่ เวลา 23.36 น.กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ยังไม่ส่งผลกระทบ แต่ยังมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่
วันที่ 2 พ.ค. 2567 มีปรับแผนดับไฟโกดังสารเคมี อ.ภาชี หลังเจอปัญหา กรดกัดกร่อนรุนแรง ทีมเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงเข้าไม่ได้ ขณะสาธารณสุขอยุธยา ประกาศปิดโรงพยาบาลภาชีกลางดึก ย้ายผู้ป่วย-เปิดโรงพยาบาลสนามศูนย์อพยพ
โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาเหตุเพลิงไหม้ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างเนื่องจากอยู่ใกล้หมู่บ้านและชุมชน ควันไฟจากการเผาไหม้สารเคมีกว่า 4 พันตัน ลอยไปไกลถึงอ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยก่อนหน้านี้ได้เกิดไฟไหม้รอบแรกเมื่อ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้บัญชาการที่เกิดเหตุ ระดมรถดับเพลิง จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงหน่วยบรรเทาสาธรณภัยต่างๆ เจ้าควบคุมเพลิงโดยใช้โฟมระดมฉีดรอบด้านของโกดังที่เกิดเพลิงไหม้ แสงเพลิงกลุ่มควันลดลง สามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลาม
ขณะที่เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (2 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ที่เกิดเหตุ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา ปรับแผนใหม่ในการทำงานใหม่ หลังเพลิงปะทุ ซึ่งการส่งรถเจาะกำแพงเจอน้ำที่พื้นในโกดังเป็นกรดไม่ทราบชนิด ทีมผจญเพลิงเข้าไม่ได้ กรดกัดกร่อนรุนแรง เปลี่ยนเป็นเข้าทางหลังคาแทน พักทีมรอรถหอสูงกำลังเดินทางสนับสนุน อีกครั้ง
สั่งปิดโรงพยาบาลภาชี
คืนที่ผ่านมา เมื่อเวลา 22.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศ โรงพยาบาลภาชี ปิดการให้บริการ ชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันที่เกิดเพลิงไหม้ภายในโกดังเก็บสารเคมีของกลางลอยไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งห่างประมาณ 600 เมตร ส่งผลทำให้อาจเกิดผลกระทบทางสุขภาพจากการเผาไหม้ของสารเคมี ขณะที่โรงพยาบาลภาชี ได้เร่งอพยพผู้ป่วย ประมาณ 37 ราย ออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลที่ได้มีการประสานเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลอุทัย หรือโรงพยาบาลที่สามารถรองรับได้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงมีการจัดตั้ง โรงพยาบาลสนานและศูนย์อพยพ ที่ วัดโคกม่วง ต.โคกม่วง อ.ภาชี เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสนานที่ พร้อมรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเตรียมที่นอน หมอน มุ้ง อาหารน้ำดื่ม รวมถึงจัดทีมแพทย์มาคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เสนอของบประมาณในการเคลื่อนย้ายสารเคมีของกลางทั้งหมดไปยังกระทรวงแล้ว และได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาแล้ว กำลังวางแผนเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่แต่มาเกิดเหตุซ้ำก่อน และจะได้ประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ มาตรวจสอบสภาพอากาศโดยรอบต่อไป
ส่วนกรณีที่ต้องเองขอลาออกจากตำแหน่งอธิบดี ไม่ได้รับแรงกดดันจากใคร เพียงแต่ทางกระทรวงมีนโยบายที่จะเปลี่ยนตัวอธิบดี ประกอบกับถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยน จึงยื่นลาออกเมื่อวันที่ 29 เมษายน และรอผลการอนุมัติ